DECENTRALIZED STABLECOINS

Stablecoins เป็นประเภทของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อลดความผันผวนของราคา โดย มักจะผูกกับสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ, ทองคำ, หรือกลุ่มของสกุลเงินหลักอื่นๆ Stablecoins โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรม, การเก็บเงินออม ด้วยความเสถียรของราคาที่ผูกติดกับสินทรัพย์อื่น

Stablecoins สามารถจำแนกออกเป็นสี่ประเภทหลักๆ ตามสิ่งที่พวกมันผูกมัดราคาด้วย ได้แก่ Fiat-Collateralized Stablecoins, Crypto-Collateralized Stablecoins, Commodity-Collateralized Stablecoins, Algorithmic Stablecoins

Fiat-Collateralized Stablecoins

เป็นประเภทของสกุลเงินดิจิทัลที่มีค่าของมันผูกมัดกับสกุลเงิน fiat หรือสินทรัพย์ที่มีความเสถียรอื่นๆ โดยตรง ซึ่งมักจะเป็นสกุลเงินหลักๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), หรือปอนด์สเตอร์ลิง (GBP). มูลค่าของ stablecoins เหล่านี้ถูกสนับสนุนหรือ “รับประกัน” โดยการถือครองจำนวนเงิน fiat เทียบเท่าในบัญชีธนาคารหรือทรัพย์สินที่มีความเสถียรอื่นๆ

คุณสมบัติหลัก:

• ความเสถียรของราคา: ราคาของ stablecoin นี้มักจะคงที่หรือมีความผันผวนน้อยมาก เนื่องจากมันผูกมัดกับสกุลเงินที่มีความเสถียรแล้ว
• การรับประกันด้วยทรัพย์สินจริง: สำหรับทุกๆ เหรียญที่ถูกออกมา, มีการรับประกันด้วยสกุลเงิน fiat ในจำนวนเท่าๆ กันที่ถูกเก็บไว้ในบัญชีธนาคารหรือในรูปแบบทรัพย์สินอื่นๆ
• ความโปร่งใส: โดยปกติ ผู้ออกเหรียญจะต้องแสดงหลักฐานอย่างสม่ำเสมอว่ามีทรัพย์สินเพียงพอที่รับประกันมูลค่าของเหรียญ

ตัวอย่างเหรียญ:

1. Tether (USDT): เป็นหนึ่งใน stablecoins ที่รู้จักกันดีที่สุด และมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย. ราคาของ USDT มักจะผูกมัดกับดอลลาร์สหรัฐ โดยอ้างว่ามีการรับประกันด้วยสกุลเงิน USD ในอัตราส่วน 1:1
2. TrueUSD (TUSD): คล้ายกับ USDT, TUSD ก็เป็น stablecoin ที่มีการรับประกันด้วยดอลลาร์สหรัฐ และมีการตรวจสอบอย่างอิสระเป็นประจำเพื่อยืนยันว่าทรัพย์สินที่รับประกันนั้นมีจริง
3. Paxos Standard (PAX): PAX เป็นอีกหนึ่ง stablecoin ที่ผูกมัดกับดอลลาร์สหรัฐ และมักจะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบและความโปร่งใส

Crypto-Collateralized Stablecoins

เป็นประเภทของสกุลเงินดิจิทัลที่มูลค่าของมันถูกผูกมัดและรับประกันด้วยสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ พวกมันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มีความเสถียรในราคาแม้ว่าจะมีการรับประกันด้วยสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่างสกุลเงินดิจิทัล

คุณสมบัติหลัก:

• Over-Collateralization: เพื่อชดเชยความผันผวนของสินทรัพย์ที่ใช้รับประกัน โดยทั่วไปแล้ว, crypto-collateralized stablecoins จะต้องมีสินทรัพย์รับประกันมากกว่ามูลค่าของ stablecoin ที่ออก ซึ่งหมายความว่าถ้า stablecoin มีมูลค่า 100 ดอลลาร์, อาจจะต้องมีสินทรัพย์ดิจิทัลรับประกันที่มีมูลค่า 150 ดอลลาร์หรือมากกว่านั้น
• การปรับค่าประกัน: เนื่องจากค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้รับประกันสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ระบบของ stablecoin ประเภทนี้มักจะมีกลไกการปรับค่าประกันอัตโนมัติ เพื่อรักษาระดับของความมั่นคง

ตัวอย่างเหรียญ:

1. Dai (DAI): สร้างโดย MakerDAO, DAI เป็นหนึ่งใน stablecoins ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ crypto-collateralized stablecoins. มันมีการรับประกันด้วยการผูกมัดกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เช่น Ethereum (ETH), และมีการใช้กลไกซับซ้อนเพื่อรักษาราคาให้คงที่.
2. sUSD (sUSD): สร้างโดย Synthetix, sUSD เป็นส่วนหนึ่งของระบบสกุลเงินดิจิทัลสังเคราะห์ที่สามารถแลกเปลี่ยนกับสินทรัพย์อื่นๆ ภายในระบบ Synthetix. มันถูกรับประกันด้วยสินทรัพย์ของ Synthetix และการใช้ SNX, โทเค็นของแพลตฟอร์ม

Commodity-Collateralized Stablecoins

เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มูลค่าของมันผูกมัดกับและรับประกันด้วยสินค้าหรือทรัพยากรทางกายภาพที่มีค่า เช่น ทองคำ, น้ำมัน, เงิน, หรือโลหะมีค่าอื่นๆ สินค้าเหล่านี้มักจะมีความเสถียรและยอมรับกันในตลาดโลก ซึ่งทำให้ stablecoins ที่รับประกันด้วยสินค้ามีความเสถียรทางมูลค่า

คุณสมบัติหลัก:

• ราคาเสถียร: ด้วยการผูกมัดกับสินค้าที่มีค่าและมีความเสถียร เช่น ทองคำ ทำให้ stablecoins ประเภทนี้มีความผันผวนน้อยกว่าสกุลเงินดิจิทัลทั่วไป
• การรับประกันด้วยทรัพย์สินจริง: สำหรับทุกๆ เหรียญที่ถูกออกมา จะมีทรัพย์สินจริงที่มีค่าเป็นการรับประกัน ซึ่งมักจะถูกเก็บรักษาไว้ที่สถานที่รักษาความปลอดภัยหรือผ่านบริษัทรับประกัน
• การตรวจสอบและความโปร่งใส: มักจะมีการตรวจสอบโดยอิสระเป็นประจำเพื่อยืนยันว่าทรัพย์สินที่รับประกันนั้นมีจริงและมีมูลค่าเพียงพอ

ตัวอย่างเหรียญ:

1. Paxos Gold (PAXG): PAXG เป็น stablecoin ที่ผูกมัดกับทองคำ โดยทุกๆ เหรียญ PAXG มีการรับประกันด้วยทองคำจริงที่ถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัย ผู้ถือ PAXG สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญของพวกเขาเป็นทองคำจริงๆ หรือเงินสดได้
2. Tether Gold (XAUT): XAUT เป็นอีกหนึ่ง stablecoin ที่ผูกมัดกับทองคำ โดยเสนอการเข้าถึงทองคำที่มีความบริสุทธิ์สูงโดยไม่ต้องมีการจัดการหรือเก็บรักษาทองคำเอง

Algorithmic Stablecoins

คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ใช้อัลกอริธึมและโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อรักษาความเสถียรของราคาโดยไม่จำเป็นต้องมีสินทรัพย์รับประกันที่เฉพาะเจาะจง แตกต่างจากประเภท stablecoin อื่นๆ ที่มีการรับประกันด้วยสินทรัพย์จริง เช่น เงิน fiat, สกุลเงินดิจิทัลอื่น, หรือสินค้ามีค่า อัลกอริธึมในเหรียญประเภทนี้จะปรับปริมาณเหรียญในการหมุนเวียนเพื่อรักษาระดับราคาที่ต้องการ.

คุณสมบัติหลัก:

• ไม่มีการรับประกันด้วยสินทรัพย์: แทนที่จะมีสินทรัพย์รับประกัน, algorithmic stablecoins พึ่งพาอัลกอริธึมและกลไกต่างๆ ในการควบคุมอุปทานและความต้องการของสกุลเงินเพื่อรักษาค่าเสถียร
• ความยืดหยุ่นและอัตโนมัติ: ด้วยการทำงานที่อิสระจากการจัดการของมนุษย์โดยตรง, ประเภทนี้ของ stablecoin สามารถปรับตัวอย่างรวดเร็วตามสภาวะตลาด
• ความซับซ้อนและความเสี่ยง: กลไกและอัลกอริธึมที่ใช้ในการรักษาความเสถียรอาจมีความซับซ้อนสูงและมักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน โดยเฉพาะในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง

ตัวอย่างเหรียญ:

1. Basis (เดิมชื่อ Basecoin): Basis เป็นหนึ่งในเหรียญ algorithmic stablecoins แรกๆ ที่ได้รับความสนใจ มันใช้อัลกอริธึมที่ปรับปริมาณเหรียญในการหมุนเวียนเพื่อรักษามูลค่าที่เทียบเท่ากับสกุลเงิน USD. อย่างไรก็ตาม, Basis ได้ปิดโครงการลงเนื่องจากปัญหาด้านกฎหมายและกำกับดูแล
2. Ampleforth (AMPL): AMPL เป็น stablecoin ที่มีการปรับปริมาณเหรียญที่อยู่ในการหมุนเวียนโดยอัตโนมัติตามความต้องการและอุปทาน เพื่อรักษาระดับราคาที่ต้องการ. แทนที่จะรักษาราคาคงที่, AMPL มีเป้าหมายเพื่อรักษาความซื้อขายเทียบเท่าโดยปรับปริมาณเหรียญ