Home Crypto 101Ethereum คืออะไร? ทำความรู้จักกับ Ethereum และ หลักการทำงาน

Ethereum คืออะไร? ทำความรู้จักกับ Ethereum และ หลักการทำงาน

by กำพล เชาว์รัตนะ
Pile of Ethereum Cryptocurrencies

Ethereum เป็นแพลตฟอร์ม blockchain ที่เปิดตัวในปี 2015 โดย Vitalik Buterin และทีมของเขา ด้วยความเป็นไปได้และความยืดหยุ่นที่สูง Ethereum ได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม blockchain ที่มีชื่อเสียงและใช้งานกันอย่างแพร่หลายที่สุดในโลก มันไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการทำธุรกรรม cryptocurrency เท่านั้น แต่ยังเป็นฐานสำหรับการสร้าง decentralized applications (DApps), smart contracts และการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) อีกด้วย

สถาปัตยกรรมของ Ethereum:

     

      • Blockchain: Ethereum ใช้ blockchain เพื่อบันทึกธุรกรรมทุกอย่างในระบบ โดยทุกบล็อกจะถูกเชื่อมโยงกับบล็อกก่อนหน้าด้วย cryptographic hash.

      • Ethereum Virtual Machine (EVM): เป็นส่วนกลางของ Ethereum ที่ช่วยให้สามารถทำงาน smart contracts ได้ มันเป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นสากลและเป็นสถานที่ที่ smart contracts ถูกทำงานและประมวลผล.

    Smart Contracts

    Smart contracts เป็นสัญญาดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยี blockchain เพื่อทำให้การทำธุรกรรมและการตกลงสัญญาเป็นไปอย่างอัตโนมัติ โปร่งใส และไม่สามารถปฏิเสธได้ มันถูกเขียนด้วยโค้ดคอมพิวเตอร์และถูกเก็บไว้บน blockchain ทำให้มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือลบล้างได้หลังจากที่ได้ถูกเผยแพร่

    หลักการทำงานของ Smart Contracts:

    1.การเขียนและการเผยแพร่:

    นักพัฒนาเขียน smart contract ด้วยภาษาโปรแกรมเช่น Solidity (สำหรับ Ethereum) และจากนั้นจะเผยแพร่โค้ดนี้ลงบน blockchain.

    2.เงื่อนไขและข้อตกลง:

    Smart contracts ประกอบด้วยเงื่อนไขที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงซึ่งทุกฝ่ายในสัญญาต้องปฏิบัติตาม เช่น ถ้า A ส่งสินค้าถึง B แล้ว B ต้องจ่ายเงินให้ A.

    3.การทำงานแบบอัตโนมัติ:

    เมื่อเงื่อนไขเหล่านั้นถูกเติมเต็ม สัญญาจะทำงานโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์ ทำให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วและลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง.

    4.การบันทึกและการตรวจสอบ:

    ทุกธุรกรรมและผลลัพธ์จะถูกบันทึกไว้บน blockchain ทำให้สามารถตรวจสอบและทบทวนได้ในภายหลัง ซึ่งเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ.

    ตัวอย่างการใช้งาน Smart Contracts:

    -การทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์:

    สมมติว่าคุณต้องการซื้อบ้านจากผู้ขาย Smart contract สามารถถูกเขียนขึ้นเพื่อให้เมื่อผู้ซื้อโอนเงินเข้าบัญชีที่กำหนด สิทธิ์การเป็นเจ้าของบ้านจะถูกโอนให้กับผู้ซื้อโดยอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีตัวกลาง เช่น ทนายความหรือนายหน้า.

    -การประกันภัย:

    ประกันการเดินทางสามารถถูกทำขึ้นโดยใช้ smart contract ที่จะจ่ายเงินชดเชยโดยอัตโนมัติหากเที่ยวบินของคุณถูกยกเลิกหรือล่าช้ามากกว่าเวลาที่กำหนด.

    -การจัดการห่วงโซ่อุปทาน:

    ในห่วงโซ่อุปทาน, smart contract สามารถใช้เพื่อตรวจสอบและยืนยันว่าสินค้าได้ถูกส่งถึงจุดหมายต่างๆ ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ และจะทำการโอนเงินให้กับผู้จัดส่งทันทีเมื่อสินค้าส่งถึงจุดหมาย.

    Smart contracts นำเสนอโอกาสในการลดต้นทุน ลดความซับซ้อน และเพิ่มความเร็วและความโปร่งใสในการทำธุรกรรม แต่มันก็มาพร้อมกับความท้าทาย เช่น ความจำเป็นในการมีโค้ดที่ไม่มีข้อผิดพลาด และความเข้าใจในเทคโนโลยี blockchain ที่ต้องมี ดังนั้นการพัฒนาและการใช้งานของมันจำเป็นต้องมีความรอบคอบและความเข้าใจที่ลึกซึ้ง.

    3. Ethereum Tokens:

    Ethereum ยังเป็นพื้นที่ที่สำคัญสำหรับการสร้างเหรียญและโทเค็นโดยใช้มาตรฐานเช่น ERC-20 และ ERC-721 ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับโทเค็นที่ไม่สามารถแทนที่ได้ (Non-Fungible Tokens หรือ NFTs).

    4. Decentralized Applications (DApps):

    นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่กระจายอำนาจบน Ethereum ซึ่งไม่มีจุดเดียวที่ล้มเหลวและไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง.

    5. การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi):

    Ethereum ได้กลายเป็นพื้นที่ที่นิยมสำหรับ DeFi ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันทางการเงินที่ไม่ต้องการตัวกลาง เช่น การแลกเปลี่ยน, การให้ยืม, และการประกัน.

    6. การอัพเกรดและความท้าทาย:

    Ethereum ต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องของ scalability, speed และ fees ด้วยเหตุนี้ Ethereum 2.0 หรือ Eth2 จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยใช้การพิสูจน์ส่วนแบ่ง (Proof of Stake) และ sharding.

    7. การลงทุนและความเสี่ยง:

    ในขณะที่ Ethereum เสนอโอกาสมากมาย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจด้านเทคนิคและความเสี่ยงในการลงทุนอย่างละเอียดก่อนทำการลงทุน.

    Ethereum ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ยังเปิดประตูสู่การปฏิวัติทางเทคโนโลยีด้วยการเป็นพื้นที่สำหรับนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเงิน, การสร้างศิลปะ, หรือระบบทางสังคม เป็นต้น. ด้วยชุมชนที่แข็งแกร่งและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Ethereum จะยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำในโลกของ blockchain และ cryptocurrency ในอนาคต.

    Related Posts