Crypto 101Ethereum คืออะไร? ทำความรู้จักกับ Ethereum และ หลักการทำงาน by กำพล เชาว์รัตนะ มกราคม 5, 2024 written by กำพล เชาว์รัตนะ มกราคม 5, 2024 302เนื้อหาในหน้านี้ สถาปัตยกรรมของ Ethereum:Smart Contracts3. Ethereum Tokens:4. Decentralized Applications (DApps):5. การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi):6. การอัพเกรดและความท้าทาย:7. การลงทุนและความเสี่ยง:Ethereum เป็นแพลตฟอร์ม blockchain ที่เปิดตัวในปี 2015 โดย Vitalik Buterin และทีมของเขา ด้วยความเป็นไปได้และความยืดหยุ่นที่สูง Ethereum ได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม blockchain ที่มีชื่อเสียงและใช้งานกันอย่างแพร่หลายที่สุดในโลก มันไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการทำธุรกรรม cryptocurrency เท่านั้น แต่ยังเป็นฐานสำหรับการสร้าง decentralized applications (DApps), smart contracts และการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) อีกด้วยสถาปัตยกรรมของ Ethereum: Blockchain: Ethereum ใช้ blockchain เพื่อบันทึกธุรกรรมทุกอย่างในระบบ โดยทุกบล็อกจะถูกเชื่อมโยงกับบล็อกก่อนหน้าด้วย cryptographic hash.Ethereum Virtual Machine (EVM): เป็นส่วนกลางของ Ethereum ที่ช่วยให้สามารถทำงาน smart contracts ได้ มันเป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นสากลและเป็นสถานที่ที่ smart contracts ถูกทำงานและประมวลผล.Smart ContractsSmart contracts เป็นสัญญาดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยี blockchain เพื่อทำให้การทำธุรกรรมและการตกลงสัญญาเป็นไปอย่างอัตโนมัติ โปร่งใส และไม่สามารถปฏิเสธได้ มันถูกเขียนด้วยโค้ดคอมพิวเตอร์และถูกเก็บไว้บน blockchain ทำให้มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือลบล้างได้หลังจากที่ได้ถูกเผยแพร่หลักการทำงานของ Smart Contracts:1.การเขียนและการเผยแพร่:นักพัฒนาเขียน smart contract ด้วยภาษาโปรแกรมเช่น Solidity (สำหรับ Ethereum) และจากนั้นจะเผยแพร่โค้ดนี้ลงบน blockchain.2.เงื่อนไขและข้อตกลง:Smart contracts ประกอบด้วยเงื่อนไขที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงซึ่งทุกฝ่ายในสัญญาต้องปฏิบัติตาม เช่น ถ้า A ส่งสินค้าถึง B แล้ว B ต้องจ่ายเงินให้ A.3.การทำงานแบบอัตโนมัติ:เมื่อเงื่อนไขเหล่านั้นถูกเติมเต็ม สัญญาจะทำงานโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์ ทำให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วและลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง.4.การบันทึกและการตรวจสอบ:ทุกธุรกรรมและผลลัพธ์จะถูกบันทึกไว้บน blockchain ทำให้สามารถตรวจสอบและทบทวนได้ในภายหลัง ซึ่งเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ.ตัวอย่างการใช้งาน Smart Contracts:-การทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์:สมมติว่าคุณต้องการซื้อบ้านจากผู้ขาย Smart contract สามารถถูกเขียนขึ้นเพื่อให้เมื่อผู้ซื้อโอนเงินเข้าบัญชีที่กำหนด สิทธิ์การเป็นเจ้าของบ้านจะถูกโอนให้กับผู้ซื้อโดยอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีตัวกลาง เช่น ทนายความหรือนายหน้า.-การประกันภัย:ประกันการเดินทางสามารถถูกทำขึ้นโดยใช้ smart contract ที่จะจ่ายเงินชดเชยโดยอัตโนมัติหากเที่ยวบินของคุณถูกยกเลิกหรือล่าช้ามากกว่าเวลาที่กำหนด.-การจัดการห่วงโซ่อุปทาน:ในห่วงโซ่อุปทาน, smart contract สามารถใช้เพื่อตรวจสอบและยืนยันว่าสินค้าได้ถูกส่งถึงจุดหมายต่างๆ ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ และจะทำการโอนเงินให้กับผู้จัดส่งทันทีเมื่อสินค้าส่งถึงจุดหมาย.Smart contracts นำเสนอโอกาสในการลดต้นทุน ลดความซับซ้อน และเพิ่มความเร็วและความโปร่งใสในการทำธุรกรรม แต่มันก็มาพร้อมกับความท้าทาย เช่น ความจำเป็นในการมีโค้ดที่ไม่มีข้อผิดพลาด และความเข้าใจในเทคโนโลยี blockchain ที่ต้องมี ดังนั้นการพัฒนาและการใช้งานของมันจำเป็นต้องมีความรอบคอบและความเข้าใจที่ลึกซึ้ง.3. Ethereum Tokens:Ethereum ยังเป็นพื้นที่ที่สำคัญสำหรับการสร้างเหรียญและโทเค็นโดยใช้มาตรฐานเช่น ERC-20 และ ERC-721 ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับโทเค็นที่ไม่สามารถแทนที่ได้ (Non-Fungible Tokens หรือ NFTs).4. Decentralized Applications (DApps):นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่กระจายอำนาจบน Ethereum ซึ่งไม่มีจุดเดียวที่ล้มเหลวและไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง.5. การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi):Ethereum ได้กลายเป็นพื้นที่ที่นิยมสำหรับ DeFi ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันทางการเงินที่ไม่ต้องการตัวกลาง เช่น การแลกเปลี่ยน, การให้ยืม, และการประกัน.6. การอัพเกรดและความท้าทาย:Ethereum ต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องของ scalability, speed และ fees ด้วยเหตุนี้ Ethereum 2.0 หรือ Eth2 จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยใช้การพิสูจน์ส่วนแบ่ง (Proof of Stake) และ sharding.7. การลงทุนและความเสี่ยง:ในขณะที่ Ethereum เสนอโอกาสมากมาย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจด้านเทคนิคและความเสี่ยงในการลงทุนอย่างละเอียดก่อนทำการลงทุน.Ethereum ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ยังเปิดประตูสู่การปฏิวัติทางเทคโนโลยีด้วยการเป็นพื้นที่สำหรับนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเงิน, การสร้างศิลปะ, หรือระบบทางสังคม เป็นต้น. ด้วยชุมชนที่แข็งแกร่งและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Ethereum จะยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำในโลกของ blockchain และ cryptocurrency ในอนาคต.การใช้พลังงานของแพลตฟอร์ม Ethereum Ethereum ใช้พลังงานประมาณ 0.0026 Terawatt hours ต่อปี น้อยกว่า Bitcoin 53,000 เท่า น้อยกว่า การทำเหมืองทอง 50,000 เท่า อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้พลังงานได้ที่ https://ethereum.org/en/energy-consumption/ 0 comments 0 FacebookTwitterPinterestThreadsBlueskyEmail กำพล เชาว์รัตนะ previous post DECENTRALIZED STABLECOINS next post Grayscale Pyth Trust เปิดให้ลงทุนแล้ว Related Posts ทำความรู้จักกับกระเป๋าเงินคริปโต หรือ Crypto wallet กันดีกว่า มีนาคม 22, 2023